Italy Tour Day 5 – Vatican, Pantheon, Piazza Navona, Colosseum

Italy Tour Day 5 - Vatican, Pantheon, Piazza Navona, Colosseumวันสุดท้ายในอิตาลี ต้องมาเยี่ยมประเทศที่เล็กที่สุดในโลก นั่นคือ นครวาติกัน Vaticano สถานที่สำคัญที่สุดของศาสนาคริส ปกติแล้วคิวสำหรับเข้าเยี่ยมชมสถานที่จะยาวมาก แต่วันนี้เราโชคดี ไม่ยาวเท่าไหร เดินตามแถวไปเรื่อยๆ ไม่เกิน 15นาทีก็ได้เข้าแล้ว เสียอย่างเดียวคือ อากาศเริ่มเย็นลง ฟ้าปิด ถ่ายรูปไม่สวย ฟ้าไม่เป็นฟ้า แต่ก็มิอาจกลบ สถาปัตยกรรมของตัวตึกที่ใหญ่โตได้เลย สวยงามมาก

Click here to Google Photo Gallery

ความละเอียดของงานแกะสลักหินอ่อน รูปปั้นต่างๆ และภาพวาดสวย ทุกอย่างคุ้มค่าแห่งการเดินทาง เตือนไว้ก่อน ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามใช้แฟลช และแสงน้อยมาก จึงถ่ายรูปลำบากนิดนึง (ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม โม้นิด) หลายจุดมีเจ้าหน้าที่ดูแล ถามได้ตอบได้ ควบคุมตัวก็ได้ด้วย

ส่วนภาพวาด Adam-Eve อันโด่งดัง ที่ปลายนิ้วเกือบสัมผัสกันบนเพดาน อยู่นในโบสถ์ซิสทีน ซึ่งอยู่ด้านหลัง และเสียค่าเข้าชมพิเศษ 15ยูโร ก็เลยดูจากภาพดีกว่า ชัดกว่าด้วย ส่วนที่ว่า ทำไมชื่อ อดัมกับอีฟ ทั้งที่เป็นผู้ชายทั้งคู่ ต้องหาอ่านกันเอง บางคนบอก เอื้อมไปหยิบซี่โครงอดัมมาทำเป็นอีฟ

สถานที่ต่อไปคือ วิหารพาเธนอน Pantheon เอารูปแบบมาจากกรีก จุดเด่นคือ หลังคามีรูปขนาดใหญ่ ไว้รับแสงอาทิตย์ รวมถึงน้ำฝนด้วย ไม่ต้องห่วง วิศวกรสมัยนั้นได้ทำรูระบายน้ำไว้แล้ว ลงแม่น้ำหลักเลย เก่งไหมหล่ะ  ที่ชื่นชอบที่แห่งนี้ เพราะว่า เป็นวิหารที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แสงจากเพดานก็ให้ความสว่างในตัวตึกทั้งหมด  เพียงแต่ว่า สภาพโดยรวม ค่อนข้างทรุดโทรม เข้าใจว่า งบประมาณยังไม่เพียงพอในการดูแลรักษา เพราะไม่ได้เก็บค่าเข้าชม อ้อ และยังเป็นที่เก็บพระศพของ สมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 แห่งอิตาลี ปฐมกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอิตาลี คือ รวมอิตาลีเป็นประเทศได้ต่อจากสมัยโรมัน ก่อนนี้เป็นแคว้น ปกครองเป็นอิสระ มิลาน ฟอเร้นส์ เป็นแคว้นทั้งหมด

Piazza Navona ลานน้ำพุกับเสาโอเบลิค สวยงามตามท้องเรื่อง ศิลปินรวมตัวกันที่นี่เยอะ เช่นวาดรูปเหมือน, วาดรูปพิสดารโชว์ และขายของทั่วไป ในโบสถ์สวยมาก แต่ห้ามถ่ายรูป จึงไม่มีของฝาก

ไฮไลท์สำหรับผม อยู่ที่สนามโคลอสเซี่ยมแห่งนี้ Colosseum สนามแข่งนักสู้ Gladiator ตามในหนังเลย อยู่ติดกับประตูชัยต้นฉบับ (ฝรั่งเศสเอาไปขยายขนาด) สภาพคือเก่ามาก และอยู่ในช่วยบำรุงรักษา เจาะรูพรุนไปหมด (อันนี้ไม่ทราบจริงๆว่าขั้นตอนเป็นไง) เขาให้เวลาน้อย จึงต้องรีบเดินอ้อมมาอีกฟาก เพื่อให้ได้จุดที่สวยที่สุดด้านหน้า ปลื้มสุดหละครับ ข้างในเฉยๆนะ เคยดูหนังหลายเรื่อง ไม่ค่อยมีอะไร ด้านนอกน่าสนใจกว่าเยอะ

ผมว่า คนอิตาลีก็คล้ายคนฮ่องกง ในการเสริฟอาหารที่รุนแรง พูดคุยเสียงดัง และขยันขันแข็ง สำหรับการแต่งตัวนั้น ดำและเทาตามสไตล์ชาวยุโรปในฤดูหนาว เท่าที่สังเกตุ จะเห็นว่า เขาให้ความใส่ใจในเรื่อง “เนื้อผ้า และลายผ้า” เสื้อที่โชว์ในร้าน แม้ว่าจะดำ เทาเข้ม แต่ก็จะพยายามเน้นไปที่ เส้นใยการถักทอ ลักษณะของเนื้อผ้า มากกว่าการใส่ไว้ในตัวหุ่น อันนี้น่าสนใจ

เมื่อพร้อม ก็ตรงสู่สนามบินโรม เตรียมแพ๊คกระเป๋าอีกรอบ เพื่อเดินทางยาวนาน 6ชั่วโมง ไปเมืองโดฮา กาตาร์ transfer 3ชั่วโมง แล้วค่อยเดินทางต่อกลับกรุงเทพ ด้วยเครื่องลำใหญ่โต 2ชั้นใหม่ล่าสุด ข้อเสียสำหรับคนแก่แล้วไม่พกแว่นคือ ดูหนังบนพนักพิงไม่ได้ (ใกล้ไปนิด) จึงอ่านหนังสือใน iPad ของตัวเอง หลับบ้างไม่หลับบ้างตามประสาคนเดินทาง

สรุป อยู่บนเครื่อง 2 คืน นอนอิตาลี 5 คืน หลายคนไม่ชอบไปทัวร์ อยากเก็บรายละเอียดด้วย bag pack อันนี้แล้วแต่ครับ  ส่วนตัวผมชอบทัวร์ เพราะว่า ง่ายกับชีวิต ไม่เก่งเรื่องการเดินทาง ติดต่อที่นั่นที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร โรงแรม จากไหนไปไหนอย่างไร  ถ้าอยู่ในเมืองไม่มีปัญหา จัดการเองได้ แต่ถ้าไปสถานที่นอกเมือง อันนี้เรื่องใหญ่หล่ะ มีคนจัดการเรื่องอาหารยิ่งชอบ ส่วนคณะทัวร์ อันนี้แล้วแต่โชค แต่คณะนี้ไม่เลท ควบคุมเวลากันเก่ง ซื้อของก็เก่ง ถือว่าโอเค

Published by Jade-ThaiCatWalk

Editor - ThaiCatwalk.Com and Runway Photographer PR, Brand Acknowledgement, Advertorial